เป็นเกมกีฬาผาดโผนที่เปิดตัวหลังจากการทดสอบส่วนตัวทางออนไลน์ที่จำกัดเฉพาะส่วนต่างๆ ของแผนที่ ผู้เล่น และผู้วิจารณ์ ต่างเพิ่งจะได้เห็นโลกทั้งหมด ซึ่งเป็นการรวมตัวของอุทยานแห่งชาติเจ็ดแห่งในสหรัฐฯ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นออนไลน์จำนวนนับไม่ถ้วน เกมและความทะเยอทะยานของมันมีขนาดใหญ่
คุณสามารถเลือกกีฬาผาดโผนหลากหลายประเภท เช่น ปั่นจักรยานเสือภูเขา สโนว์บอร์ด และเจ็ตแพ็ก จากนั้นกระโดดลงจากภูเขาก่อนที่จะแข่งกับเพื่อนๆ ของคุณเพื่อเข้าเส้นชัย จากที่นั่น เส้นทางที่ครอบคลุมจะแตกแขนงไปในทิศทางมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้มีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ความสนุกเหนือสิ่งอื่นใด
ต้องการวาร์ปไปที่ยอดเขาหรือไม่ เปิดแผนที่ เลือกสถานที่ และว้าว คุณอยู่ที่นั่นแล้ว ต้องการเปลี่ยนกีฬาหรือไม่? กดปุ่มกันชนค้างไว้แล้วสลับได้ทันที ไม่จำเป็นต้องหยุดชั่วคราวหรือโหลด ต้องการเพิกเฉยต่อเกมทั้งหมดและสำรวจกับเพื่อน ๆ หรือไม่? แคมเปญของเกมเป็นแบบเลือกเข้าร่วมจากการแข่งขันหนึ่งไปยังอีกการแข่งขันหนึ่ง
หากคุณเลือกที่จะแข่งขัน จุดสุดยอดของปรัชญา “ความสนุกเหนือสิ่งอื่นใด” นี้คือการแข่งขันแบบมวลชน ซึ่งผู้เล่นหลายสิบคนวิ่งฝ่าอันตรายไปตามถนนซึ่งไม่ได้สร้างมาเพื่อถุงเนื้อมนุษย์ที่เปราะบางจำนวนมาก เติมหน้าจอด้วยภาพเบลอที่มีสีสัน ชุดกีฬา ทักษะจะพาคุณไปอยู่แถวหน้าของฝูง แต่การชนะการแข่งขันเหล่านี้มักจะกลายเป็นเรื่องของโอกาส เมื่อคุณปะทะกับเพื่อนนักแข่ง พวกคุณทุกคนพยายามจะฝ่าดงต้นไม้หนาทึบหรือทางเดินเล็กๆ ด้านล่างของหุบเขาลึก
สไตล์นี้จะคุ้นเคยสำหรับแฟน ๆ ของ Steep ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ Ubisoft Annecy ใน Riders Republic ฉันมักจะพูดว่า Steep เป็นเกมที่ดีที่สุดที่ไม่มีใครเล่น แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย โบนันซ่ากีฬาผาดโผนฤดูหนาวแบบเปิดโล่งของ Ubisoft มีปัญหาตอนเปิดตัว แต่เมื่อ Sony เพิ่มชื่อให้กับ PlayStation Plus ในปี 2018 ผู้คนเกือบ 10 ล้านคนต้องเล่นสกี Ubisoft ไม่ค่อยพูดเกี่ยวกับระยะเวลาที่ผู้เล่น 10 ล้านคนติดอยู่
Riders Republic เปรียบเสมือน Steep ที่เขียนใหม่ทั้งหมด ทีมสร้างสรรค์นำบทเรียนทั้งหมดที่เรียนรู้จากร่างคร่าวๆ และเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น มันมีเกมกีฬาผาดโผนมากกว่าแน่นอน แต่ที่สำคัญกว่านั้นมันคือประสบการณ์ทางสังคมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น มันหลั่งไหลความสุขโดยไม่ต้องพึ่งพาพื้นฐานของโคตรของมัน เช่น การต่อสู้ การแข่งขันที่ผู้ชนะ และการเล่าเรื่องเชิงเส้นที่ประโลมโลก